สำหรับ Sahith Theegala แล้ว แม้ว่าการแม่นแฟร์เวย์จะเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นกอล์ฟ แต่เมื่อสิ่งนั้นไม่ใช่จุดเด่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยการเดินบนเส้นทางของตัวเอง
ถึงทางด้าน Theegala จะไม่ได้มีจุดเด่นในด้านการตีด้วยไดร์เวอร์ แต่เขาก็มีสิ่งที่มาทดแทนนั่นก็คือการเล่นเกมสั้นและการแก้ปัญหาที่เป็นเลิศ ซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลให้เขาจบการแข่งขันรายการ Fortinet Championship ด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์ ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง S.H. Kim อยู่ 2 ช็อต โดยที่ Theegala เองก็ตีลงแฟร์เวย์ได้เพียง 47% ตลอดการแข่งขัน ซึ่งไม่เกิน 7 ครั้งต่อรอบการแข่ง
โดยที่หลุม 14 ทางด้าน Theegala ไดร์ฟลูกพูลหลุดไปทางรัฟฝั่งซ้ายของแฟร์เวย์ ซึ่งแม้ขณะนั้นเขาจะนับอยู่ 4 ช็อต แต่หากเขาทำพลาดแล้วมันก็อาจส่งผลต่อเนื่องเพราะมีหลุมพาร์ 5 ถึง 2 หลุมที่รออยู่หลังจากนั้น แต่ด้วยระยะทางระหว่างจุดที่ลูกตกไปจนถึงหลุมก็มีต้นไม้รวมถึงกิ่งไม้ที่ขวางอยู่ แม้มันจะเป็นอุปสรรคสำหรับนักกอล์ฟหลายๆ คน แต่สำหรับ Theegala แล้วเขากลับมองหาความเป็นไปได้ในการเล่นช็อต เพราะสำหรับเขามันคือเกมนั่นเอง
ด้วยระยะจากจุดตกถึงหลุมที่ 122 หลา พร้อมกับธงที่ตั้งอยู่มุมข้างหลังด้านขวาของกรีน และลายตรงจุดที่เขาเล่นก็ทำให้นึกถึงการเล่นบนหญ้าเบอร์มิวด้าซึ่งอาจส่งผลให้ลูกกระโดด แต่การเล่นแบบนี้เองที่เขาทำได้ดีที่สุด เพราะลูกก็พุ่งออกไปต่ำมากพอที่จะลอดใต้ต้นไม้แต่ก็โค้งมากพอที่จะไปตกขอบหน้ากรีนพร้อมกับติดสปินโดยที่ลูกเองก็ไปหยุดที่ระดับธงพร้อมกับห่างจากหลุมเพียง 20 ฟุต ซึ่งเขาก็สามารถพัตต์เก็บเบอร์ดี้และขยับขึ้นนำไปที่ 5 ช็อต
ซึ่งมันก็มีเหตุผลที่แม้การไดร์ฟของ Theegala จะไม่ใช่จุดแข็ง แต่เขาก็สามารถกลบมันได้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการเล่นช็อตและความกล้าที่จะทำ ซึ่งช่วยให้เขาสามารถแก้ช็อตที่อาจจะตีพลาดให้กลับมาเล่นต่อได้อย่างสม่ำเสมอ นั่นก็มาจากการที่เขาโตมากับการนึกภาพว่ามีต้นไม้ขวางเวลาซ้อมที่สนามไดร์ฟ ซึ่งบังคับให้เขาจำเป็นต้องตีดรอว์หรือเฟดอยู่เป็นประจำ และในความคิดของเขาคือวงสวิงของเขายังไม่ดีมากพอที่จะไดร์ฟออกไปได้ตรง ซึ่งแม้เวลาผ่านไปจุดด้อยที่เขามีนั้นอาจจะลดน้อยลง แต่เขาก็ไม่เคยละทิ้งรูปแบบในการเล่นของตัวเอง โดยที่หลุม 12 พาร์ 5 ทางด้าน Theegala ก็ไดร์ฟด้วยลูกที่ลอยเหนือพื้นไม่เกิน 50 ฟุตเพื่อหลบกระแสลม ซึ่งสุดท้ายเขาก็เก็บเบอร์ดี้ไปได้ และเมื่อถึงหลุม 16 หลุมที่เขาจำเป็นต้องไดร์ฟได้ดี เขาก็เลือกที่จะตีลูกคัทซึ่งเป็นลูกถนัดที่เขาตีมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ตีลงแฟร์เวย์ได้ก่อนจะทำแอพโพรชช็อตไปที่ระยะ 7 ฟุตถึงหลุมก่อนจะพัตต์ปิดเกมไป
และด้วยเหตุนี้เอง ถึงแม้เขาจะพลาดการตีขึ้นแฟร์เวย์ไปมากกว่าครึ่งของที่ทำไป แต่เขาก็ตีขึ้นกรีนได้ถึง 75% ของการเล่นทั้งหมด
แต่ถึงอย่างนั้น Theegala เองก็ย้ำว่าเป้าหมายของเขาในการเล่นสัปดาห์นี้ไม่ใช่การคว้าชัยชนะ แต่ก็เพื่อพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นและเล่นในแบบของตัวเอง แต่แล้วทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปที่กรีนในหลุม 17 พาร์ 3 ที่เขาได้เห็นว่าตัวเองนำอยู่ 4 ช็อตและมีโอกาสคว้าชัยชนะ และแม้เขาจะทำไปถึง 6 ช็อตก่อนจะเสียโบกี้ที่หลุม 18 แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายเขาได้ขึ้นไปอยู่ในจุดของผู้ชนะต่อหน้าบรรดาครอบครัวและเพื่อนฝูงที่มาให้กำลังใจกว่า 40 คน
Theegala โตมากับการใฝ่ฝันแค่เพียงได้เล่นใน PGA Tour ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็เดินหน้าเล่นด้วยแบบของตัวเอง ด้วยวงสวิงของตัวเอง ด้วยจังหวะของตัวเอง จนตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นแชมป์ ซึ่งอาจหมายถึงว่าเป็นช่วงเวลาที่เขาจะต้องมองให้ไกลกว่าเดิมแล้วก็ได้