Titleist Pro V1 และ Pro V1x ปี 2023 – รุ่นล่าสุด ของลูกกอล์ฟที่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักกอล์ฟมากที่สุด – สร้างมาตรฐานใหม่ทางประสิทธิภาพ และความสม่ำเสมอ ในการเล่นจากแท่นที ถึงกรีน ด้วยเทคโนโลยีแกนในนวัตกรรมล่าสุด ที่พิสูจน์แล้วโดยผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก
วางตลาดแล้ววันนี้ ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ มีการออกแบบทางวิศวกรรม ที่ทำให้แกนในมีความแข็งแบบไล่ระดับสูงขึ้น ซึ่งทำให้ สปินต่ำลงในการเล่นช็อตยาว เพื่อเพิ่มระยะทาง และให้วิถีลูกที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น ช่วยให้นักกอล์ฟตีไกลขึ้น และตรงยิ่งขึ้น ในขณะที่ ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกในตกแล้วหยุด ในการเล่นรอบกรีน ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Pro V1 และ Pro V1x ที่นักกอล์ฟเชื่อมั่น ยังคงดีที่สุดเช่นเดิม
โครงสร้างแกนในความแข็งไล่ระดับ มีระดับความแข็งที่ไล่ระดับจากด้านใน ไปด้านนอก ทำให้สปินในการเล่นช็อตยาวลดลง โดยไม่มีผลกับสปินในการเล่นลูกสั้น เทคโนโลยีแกนในความแข็งไล่ระดับ รวมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกระบวนการผลิตที่ไร้คู่แข่งของ Titleist ทำให้ลูกกอล์ฟ มีความสม่ำเสมอสูงสุด ทั้งอัตราสปิน และความเร็วลูกกอล์ฟ ให้ความแม่นยำในการเล่นสูงสุด
“เรามองหาความสม่ำเสมอจากทุกองค์ประกอบ ในการสร้างลูกกอล์ฟ ตั้งแต่หลักทางอากาศพลศาสตร์ ไปจนถึงแกนในของลูกกอล์ฟ ” Mike Madson ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย และวิศวกรรมลูกกอล์ฟ กล่าว “เราต้องการให้ลูกกอล์ฟลอยสูงในระดับเดียวกัน มีมุมเหิน วิถีลูก สปิน และความเร็ว ที่สม่ำเสมอในการเล่นทุกช็อต ความสม่ำเสมอ หมายถึง เมื่อนักกอล์ฟใช้ Pro V1 หรือ Pro V1x ทุกช็อตที่พวกเขาตีได้แบบที่ต้องการ ลูกกอล์ฟจะให้ประสิทธิภาพแบบที่พวกเขาคาดหวัง และประสิทธิภาพที่ไว้วางใจได้”
นอกเหนือจากนวัตกรรมที่สำคัญเหล่านี้แล้ว Pro V1 และ Pro V1x ยังให้ประสิทธิภาพ และสมรรถนะสูงสุด ทุกด้าน เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของนักกอล์ฟ: Pro V1 เป็นการผสมผสานที่ดีที่สุด ระหว่าง ระยะทาง สปิน และความรู้สึกนุ่ม ขณะหน้าไม้ปะทะลูก พร้อมให้วิถีลูกพุ่งทะลุทะลวงอย่างทรงพลัง Pro V1x ถูกออกแบบให้มีวิถีลูกสูงกว่า และให้สปินสูงกว่า ทั้งจากการตีด้วยเหล็ก และการเล่นลูกสั้น ในขณะที่ยังคงให้สปินต่ำ ในช็อตที่ยาว เพื่อให้ตีได้ไกลที่สุด
“ลูกกอล์ฟ Titleist รุ่นใหม่ ต้องดีกว่ารุ่นเดิม” Frederick Waddell ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ลูกกอล์ฟ กล่าว “ก่อนที่เราจะเรียกมันว่า Pro V1 รุ่นใหม่ มันต้องดีกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด เราทำการทดสอบแบบเจาะลึก ทุกขั้นตอน และการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่าการปรับปรุง และพัฒนาทางประสิทธิภาพ โดยทีมวิจัยและพัฒนาระดับโลกของเรา ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟ เมื่อพวกเขาได้นำลูกกอล์ฟไปออกรอบเล่น และได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยมตามที่ต้องการ”
เทคโนโลยีของ Pro V1 และ Pro V1x ปี 2023: ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x ที่มีการพัฒนามากที่สุด เท่าที่เคยมีมา ลูกกอล์ฟทั้งสองรุ่น มีนวัตกรรมที่สำคัญที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ในสนามกอล์ฟ ประกอบด้วย:
- แกนในความแข็งแบบไล่ระดับ: แกนในแบบใหม่ ที่ถูกนำมาใช้สำหรับแกนในแบบชั้นเดียวของ Pro V1 ใหม่ และแกนในแบบสองชั้นของ Pro V1x ถูกสร้างให้มีความแข็งด้านนอกสุดมากกว่า และนุ่มลงแบบไล่ระดับจนถึงด้านใน ซึ่งทำให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงขึ้น และสปินต่ำลงในการเล่นช็อตยาว แกนในแบบใหม่นี้ ออกแบบจากลูกกอล์ฟรุ่นที่มีประสิทธิภาพเฉพาะ CPOs (Custom Performance Options) ที่ได้รับความนิยมสูง – Pro V1 Left Dot และ Pro V1x Left Dash ซึ่งทั้งสองรุ่น มีแกนในที่มีความแข็งแบบไล่ระดับ และมีนักกอล์ฟในทัวร์หลายท่าน ใช้ลงแข่งขัน
- ขนาดของแกนในสองชั้นแบบใหม่: มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของแกนในสำหรับ 2023 Pro V1x โดยแกนในมีปริมาตรศูนย์เพิ่มขึ้น 44% จากขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1” เป็น 1.13” ขนาดแกนในที่ใหญ่ขึ้น ทำงานร่วมกันกับความแข็งที่ไล่ระดับ ทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น และแกนชั้นในสุด ที่นุ่มมากขึ้น ทำให้สปินในการเล่นช็อตยาวต่ำลง และเพิ่มความเสถียรเมื่อลูกกอล์ฟลอยอยู่ในอากาศ
- เปลือกหุ้มแกนในยืดหยุ่นสูง ช่วยปรับประสิทธิภาพด้านความเร็ว: เปลือกหุ้มแกนในของทั้ง Pro V1 และ Pro V1x ทำงานร่วมกันกับแกนในแบบไล่ระดับความแข็ง ทำให้สปินส่วนเกินลดลง ในช็อตเดินทาง และเมื่อรวมกับเปลือกนอกที่ทำจากยูรีเทนชนิดนุ่ม ทำให้ลูกกอล์ฟ ให้สปินที่ยอดเยี่ยมในการควบคุมลูก และการเล่นลูกสั้นรอบกรีน
- เปลือกนอกทำจากยูรีเทน ผลิตด้วยกระบวนการหล่อแบบเทอร์โมเซ็ท: เปลือกนอกยูรีเทนของลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x ผลิตด้วยกระบวนการเทอร์โมเซ็ตที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ โดยผสมส่วนประกอบสองส่วนเข้าด้วยกัน และนำยูรีเทนเหลวใส่ในแบบหล่อ ผลิตโดย Titleist เพื่อสร้างเปลือกนอก พร้อมรอยบุ๋ม ระยะเวลาในการหล่อเปลือกนอก และอุณหภูมิในการผลิต ถูกควบคุมอย่างแม่นยำ เพื่อให้เปลือกนอกที่ทำจากยูรีเทน ให้ความสม่ำเสมอ และประสิทธิภาพสูงสุด ที่นักกอล์ฟสัมผัสได้ในสนามกอล์ฟ
- รอยบุ๋มแบบทรงกลม เรียงตัวแบบ Tetrahedral: รอยบุ๋มแบบ 388 แบบ ของลูกกอล์ฟ Pro V1 และรอยบุ๋มแบบ 348 ของ Pro V1x ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติทางอากาศพลศาสตร์ที่เหมาะสม ที่ให้ลูกกอล์ฤลอยอย่างสม่ำเสมอ และได้ระยะไกล รอยบุ๋มของ Pro V1x ให้มุมเหิน และวิถีลูกสูงกว่าเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ Pro V1
การประเมินผลโดยผู้เล่นในทัวร์:
ผู้เล่นมากกว่า 45 คน ใช้ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ ลงแข่งขันใน PGA TOUR นับตั้งแต่เปิดตัวในทัวร์ ซึ่ง รวมถึง Will Zalatoris ที่นำ Pro V1x ใหม่ลงแข่งขันทันที ในรายการเปิดฤดูกาลปี 2023 ที่ Sentry Tournament of Champions ซึ่งเป็นรายการแรกของปีนี้ที่เขาลงแข่งขัน นับตั้งแต่ที่เขาได้แชมป์ที่ FedEx St. Jude Championship เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ Sungjae Im และ Viktor Hovland ใช้ลูกกอล์ฟ 2023 Pro V1x ลงแข่งขันรายการเดียวกันนี้ ที่ Kapalua
Zalatoris: “ลูกกอล์ฟเปรียบเสมือนตัวขับเคลื่อน สำหรับอุปกรณ์กอล์ฟทุกชิ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ผมมองหา เมื่อใดก็ตามที่ผมทดสอบลูก คือ ‘มันทำได้ตามที่ผมคิดไว้หรือเปล่า? ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนต้องการสำหรับการเล่นกอล์ฟ นั่นคือสิ่งที่เรารักเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้น เมื่อผม เปลี่ยนไปใช้ [2023 Pro V1x] สิ่งสำคัญที่ผมเห็นคือ มันให้ประสิทธิภาพในการเล่นรอบกรีนที่สม่ำเสมอมากๆ ผมตีไกลขึ้นเล็กน้อยด้วยไดรเวอร์ แต่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าลูกกอล์ฟตีผ่านลมได้ดีกว่า สำหรับผมแล้ว ผมสามารถสวิงแบบเดิม และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น มันมีประโยชน์มากสำหรับการแข่งขันตลอดฤดูกาล
“เมื่อมีคนถามว่าลูกกอล์ฟรุ่นใดที่เหมาะกับคุณ? มันต้องเป็นลูกกอล์ฟที่คุณรู้ว่า มันทำงานอย่างไร ในช็อตแต่ละแบบ และสำหรับผม ด้วยรูปแบบการสวิง และความเร็วสวิง ที่ผมมี ผมต้องการลูกกอล์ฟที่ให้อะไรที่มากกว่า ชดเชยความผิดพลาดสูงกว่า ในช็อตที่ผมตีพลาด ผมเห็นช็อตที่เคยเสียระยะ ห้าถึงหกหลา เหลือหลา สองหลา หรือสามหลา และช็อตที่ลูกจมในบังเกอร์ ที่อาจทำให้เสียโบกี้ กลายเป็นช็อตที่เล่นได้ง่ายขึ้น และอาจจะทำให้ได้เบอร์ดี้ เมื่อเปลี่ยนมาใช้ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่”
Sungjae Im: “ผมรู้สึกว่า Pro V1x รุ่นใหม่ ได้รับผลกระทบจากลมน้อยกว่า และให้ความสม่ำเสมอมากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Pro V1x รุ่นก่อนหน้า”
- ผู้เล่นที่เปลี่ยนมาใช้ 2023 Pro V1 ลงแข่งขันแล้ว ประกอบด้วย: Keith Mitchell, Luke List, Hayden Buckley, Tyson Alexander, Patton Kizzire , Garrick Higgo และ Ben Taylor
และผู้เล่นที่เปลี่ยนมาใช้ Pro V1x รุ่นใหม่ ลงแข่งขันแล้ว ประกอบด้วย: Will Zalatoris , Sungjae Im , Viktor Hovland , Kevin Kisner , Seamus Power , JT Poston , Scott Stallings , Chris Kirk , SH Kim , Vincent Norrman , Stewart Cink , Gary Woodland และ Brandon Wu
สำหรับ LPGA ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ เปิดตัวก่อนปิดฤดูกาลสองสัปดาห์ในฤดูกาลนี้ มีผู้เล่น 5 คน เปลี่ยนมาใช้ 2023 Pro V1x ลงแข่งขันทันที ได้แก่ Marina Alex, Lizette Salas, Amy Yang, Sarah Kemp, Cristie Kerr และ Brittany Lincicome
การเลือกใช้ระหว่าง Pro V1 และ Pro V1x: Pro V1 เป็นลูกกอล์ฟที่ดีที่สุด สำหรับผู้เล่นที่ต้องการสปินต่ำในการเล่นช็อตยาว ตีไกลขึ้น ให้วิถีลูกพุ่งอย่างทรงพลัง และสม่ำเสมอ และให้ประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในการควบคุมลูกให้ตกแล้วหยุด ในการเล่นรอบกรีน พร้อมความรู้สึกนุ่มมาก ที่นักกอล์ฟชื่นชอบจาก Pro V1 สำหรับ Pro V1x เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการ วิถีลูกสูงกว่า สปินสูงกว่า พร้อมให้ความรู้สึกแน่นกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Pro V1
สี และหมายเลขบนลูกกอล์ฟ: ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ แบบสีขาว วางตลาดรุ่นที่มีหมายเลขบนลูกกอล์ฟ 1-4 และ 5-8 ในหนึ่งโหล รวมถึงรุ่นที่มีหมายเลขเดียวกันทั้งหมดในหนึ่งโหล คือ 00 และ 1-99 ในขณะที่ ลูกกอล์ฟ Pro V1 และ Pro V1x รุ่นใหม่ สีเหลือง high optic มีหมายเลขบนลูกกอล์ฟ 1-4
จำหน่าย และการวางตลาด: ลูกกอล์ฟ 2023 Pro V1 และ Pro V1x จะวางจำหน่าย ที่ตัวแทนจำหน่ายของ Titleist ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมนี้ รุ่นสีขาว (หมายเลขบนลูกกอล์ฟ 1-4, 5-8) และหมายเลขเดียวกันทั้งหมด (00 และ 1- 99)*
ลูกกอล์ฟ 2023 Pro V1 และ Pro V1x สีเหลือง high optic (เล่นหมายเลข 1-4) จะวางตลาดเดือนมีนาคมนี้ โดยมีราคาต่ำที่สุดในการโฆษณา (MAP) 2,240.00 บาท
ข้อมูลทางเว็ปไซต์คลิก: https://www.titleist.in.th/2023-pro-v1-pro-v1x
ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ วัชระ กาฬภักดี – ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ และการตลาด Titleist, บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด อีเมล: watchara_kanpukdi@acushnetgolf.com โทร 097-221-8141