Champion Golfer of the year – กับประวัติศาสตร์ที่ยากจะทำลาย
ปิดฉากกันไปแล้วกับเมเจอร์สุดท้ายของปี 2021 ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่โคลิน โมริกาว่า นักกอล์ฟวัย 24 ปี ได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นที่สุดของนักกอล์ฟในตอนนี้ ใครที่ได้ดูถ่ายทอดสดก็คงจะเข้าใจดีว่า ที่สุดของนักกอล์ฟที่ผมพูดถึงนั้นคืออะไร
ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูหรือดูแล้วแต่อยากฟังใหม่ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ
ก่อนการแข่งขัน The Open Championship 2021 โมริกาว่า เป็นนักกอล์ฟที่ไม่ใช่นักกอล์ฟโนเนมอยู่แล้ว เค้าคือนักกอล์ฟดีกรีระดับ Multiple Champs และยังเป็นเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 1 สมัยด้วย รายการนั้นคือ PGA Championship 2020
ซึ่งมันเป็นการลงแข่งขัน PGA Championship ของเค้าเป็นครั้งแรก! แล้วเค้าก็สามารถคว้าแชมป์ได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันคือ Story ที่โดดเด่นและไม่ธรรมดาเลย
ในวันนั้นแฟนกอล์ฟทั่วโลกคงได้เห็นแล้วว่า เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ด้วยบุคคลิกที่ดูนิ่งๆ เหมือนจะไม่ได้เป็นคนดุดันอะไรนัก แต่การควบคุมตัวเองของเค้าในสนามนั้น ราวกับว่าเค้าเคยได้แชมป์เมเจอร์มาแล้วหลายสมัย เค้าดูไม่ตื่นเต้นและมีการโฟกัสในภาวะความกดดันสูงได้ดีมากๆ
และนั้นก็ส่งผลให้เค้าได้สร้างสถิติที่เทียบเท่ากับนักกอล์ฟระดับตำนาน อย่าง แจ็ค นิคลอส ไทเกอร์ วูดส์ และ รอรี่ย์ แมคอิลลอย ด้วยการเป็นนักกอล์ฟที่ชนะรายการ PGA Championship ครั้งแรกด้วยอายุ เพียง 23 ปีเท่านั้น
และแน่นอนว่า ตอนนี้เค้าคือนักกอล์ฟระดับ Muliple Major Champs ไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่งใน Milestone ที่นักกอล์ฟอาชีพหลายคนอยากทำให้ได้ แต่ทำไม่ได้
โมริกาว่า คือนักกอล์ฟเพียบพร้อมในทุกทักษะเกมส์กอล์ฟที่นักกอล์ฟระดับเทพควรจะมี และหนึ่งในจุดเด่นของเค้า คือการมี “สัญชาตญาณแห่งการปิดเกมส์เพื่อแชมป์”
ในวันอาทิตย์ของการแข่งขัน The Open Championship 2021 ซึ่งมันคือการลงแข่งขันครั้งแรกของเค้า
โมริกาว่า เริ่มสตาร์ทด้วยการเป็นที่สองตาม หลุยส์ อุสธุยเซน อยู่ที่ 1 สโตรค -11 อันเดอร์พาร์
โมริกาว่า เป็นที่สองเพียงแค่ 3 หลุมเท่านั้น หลุมที่ 4 อุสธุยเซน พลาดเสียโบกี้ เลยทำให้โมริกาว่า ได้เป็นผู้นำร่วมในครั้งแรก
และตั้งแต่หลุม 5 จนถึง หลุม 18 ก็ไม่มีใครมีโอกาสขึ้นแซงเค้าได้เลย ต่อให้จอร์แดน สปิธ จะเอา A Game มากดดันซักแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่า ไม่สามารถทำอะไรเค้าได้เลยจริงๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญของทัวร์นาเมนต์นี้ เกิดขึ้นที่หลุม 7 อุสธุยเซน นั้นระเบิดทรายช้อตที่สามไม่ขึ้น ทำให้ต้องระเบิดทรายอีกครั้ง และเค้าก็ทำได้ไม่ดีนัก ไม่สามารถทำอัพแอนด์ดาวน์เพื่อเซพพาร์ได้ ในขณะที่ โมริกาว่า ชิพเข้าไปดำ แล้วเก็บพัตต์เบอร์ดี้แบบสบายๆ
ราคาของหลุมนี้ที่ อุสธุยเซน ต้องจ่ายไปนั้นมีมูลค่าที่สูงมาก นอกจะปล่อยให้เกิดการสวิง 2 สโตรคแล้ว มันคือการปล่อยให้โมริกาว่า ได้ขึ้นนำเดี่ยวทันที และนั้นก็คือการหยิบยื่นแชมป์ให้กับโมริกาว่า โดยที่ตอนนั้น อุสธุยเซน เองอาจจะคิดว่ายังมีโอกาสให้แก้ตัวอีกตั้ง 11 หลุม…
ด้วยสัญชาตญาณการปิดเกมส์เพื่อแชมป์
กราฟสกอร์ในช่วงหลุม 7, 8, 9 ของโมริกาว่า พุ่งขึ้นแบบหยุดไม่อยู่ เค้าทำ 3 เบอร์ดี้ติด! สกอร์รวมอยู่ที่ -14 อันเดอร์พาร์ ทิ้งห่างที่สองถึง 4 สโตรคในตอนนั้น ถึงแม้จอร์แดน สปิธ จะเร่งเครื่องแบบสุดกำลัง ทำ Magic Putt เพื่ออีเกิ้ลที่หลุม 7 และอีก 4 เบอร์ดี้หลังจากนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้โมริกาว่า แสดงความผิดพลาดใดๆ ออกมาเลย
ใช่ว่าโมริกาว่า จะเล่นดีตลอดทั้งวัน เค้าเองก็มีหลุดๆ ให้เห็นตลอด เพียงแต่ว่า เค้าปิดรอยรั่ว แก้ไขข้อผิดพลาดแบบทันที ไม่ปล่อยให้ใครที่ตามหลังได้กดดันเค้าได้เลย ช้อตชิพยากๆ ในภาวะขับขัน พัตต์เซฟพาร์ยาวๆ เค้าทำได้หมด แม้แต่โบกี้เดียวก็ไม่มีให้เห็น (มันคือการปิดเกมส์แบบในอุดมคติจริงๆ)
ซึ่งถือว่าเป็นโชคร้ายของ หลุยส์ อุสธุยเซน และ จอร์แดน สปิธ ที่ต้องมาเจอกับนักกอล์ฟที่เรียกได้ว่ากำลังอยู่ใน A Game อย่างแท้จริง โมริกาว่า มีสถิติการตีขึ้นกรีนที่แม่นยำมากๆ ในวันที่ 2 ของการแข่งขัน เปอร์เซนต์การตีขึ้นกรีนของเค้าคือ 83% แล้วยังมีสถิติ Strokes Gained Approach อันดับ 1 ของ PGA Tour ในซีซั่นนี้ด้วย
ด้วยผลงานการเล่นกอล์ฟที่คงเส้นคงวาพร้อมกับสัญชาตญาณในการปิดเกมส์
ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เค้าจะสร้างประวัติศาสตร์ที่ยากที่ใครจะทำลาย ด้วยการเปิดตัวลงแข่งขันรายการเมเจอร์ในครั้งแรกทั้ง 2 รายการ และก็สามารถคว้าแชมป์ได้ทั้ง 2 รายการ ด้วยวัยเพียง 24 ปี
ติดตาม Content กอล์ฟดีๆได้ที่ C2P_Golf : https://www.facebook.com/C2P_Golf-520603588393537/
ติดตามฟัง พอดแคสกอล์ฟและการพัฒนาตัวเอง : https://pdgolf.podbean.com
Photo Credit : PGA TOUR