สัปดาห์นี้ DP World Tour เดินทางมาถึงการแข่งขัน Race to Dubai ครั้งที่ 44 และเป็นรายการสุดท้ายของฤดูกาล โดยมีผู้เล่น 50 อันดับแรกที่พร้อมลงแข่งขันที่ Jumeirah Golf Estates ในรายการ Rolex Series และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ DP World Tour Championship
เรื่องแรก : สิ่งที่ McIlroy ต้องทำเพื่อคว้าชัยชนะ Race to Dubai สมัยที่ 6
ไม่เหมือนกับฤดูกาลที่แล้วที่ Rory McIlroy ได้รับการยืนยันว่าจะได้ Harry Vardon Trophy แม้ยังไม่เริ่มการแข่งขัน แต่ปีนี้เขายังต้องต่อสู้เพื่อเป็นแชมป์ Race to Dubai ในฤดูกาลนี้ McIlroy ลงแข่งขัน 12 ครั้ง ชนะ 1 รายการใน Hero Dubai Desert Classic ในเดือนมกราคม จบรองแชมป์ 4 ครั้ง และติดท็อปไฟว์อีก 3 ครั้ง ล่าสุดเขาจบอันดับสามใน Abu Dhabi HSBC Championship เมื่อสัปดาห์ก่อนและยึดตำแหน่งผู้นำในตารางคะแนน Race to Dubai Rankings มีเพียง Thriston Lawrence เป็นผู้เล่นคนเดียวที่มีโอกาสแซง McIlroy ขึ้นเป็นแชมป์ยุโรป เขาต้องการชัยชนะในสัปดาห์นี้เท่านั้นและ McIlroy ต้องจบไม่เกินอันดับ 11 เพื่อที่ Lawrence จะได้แชมป์ไปครอง
เรื่องที่ 2 : โอกาสการเป็นสมาชิกคู่กับ PGA TOUR
นอกเหนือจากแชมป์ Race to Dubai แล้ว DP World Tour Championship ยังจะเป็นตัวกำหนดผู้เล่น 10 อันดับแรกในตารางคะแนน Race to Dubai ที่ยังไม่ได้สิทธิ์อื่นๆ เพื่อได้รับการ์ดเล่นใน PGA TOUR ในปีหน้า ซึ่ง Lawrence เป็นผู้นำในรายชื่อ ตามมาด้วย Rasmus Højgaard, Paul Waring, Niklas Norgaard และคนอื่นๆ ซึ่งผู้เล่นที่อยู่ในอันดับสุดท้ายของรายการ ก็มีโอกาสที่จะติด 10 อันดับแรกเช่นกัน
เรื่องที่ 3 : ประวัติ Rolex Series ในสนาม Earth Course
Earth Course ที่ Jumeirah Golf Estates จะเป็นเจ้าภาพ DP World Tour Championship เป็นครั้งที่ 16 หลังจากเริ่มจัดในปี 2009 โดยในปี 2017 การแข่งขันได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Rolex Series ทำให้มีนักกอล์ฟชั้นนำเข้าร่วม Nicolai Højgaard แชมป์ปีที่แล้วพลาดโอกาสป้องกันแชมป์เนื่องจากจบอันดับที่ 59 ใน Rankings หลังการแข่งขัน Abu Dhabi HSBC Championship แต่ผู้ชนะ Rolex Series คนอื่น ๆ ของปีนี้ต่างก็มาที่ดูไบเพื่อร่วมชิงชัยในศึก DP World Tour Championship