มีผู้เล่นเพียง 70 คนเท่านั้นที่จะได้มีโอกาสร่วมลงแข่งในรายการ FedEx St. Jude Championship ณ สนาม TPC Southwind เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีถึง 125 คน ซึ่งทำให้การได้เล่นใน FedExCup Playoffs ครั้งนี้ยากกว่าที่เคยมีมา
และจะมีผู้เล่นเพียงท็อป 50 หลังจบรายการ FedEx St. Jude Championship เท่านั้นที่จะได้ไปแข่งต่อในรายการ BMW Championship ที่สนาม Olympia Fields ตามด้วยผู้เล่นท็อป 30 ที่จะมีโอกาสไปถึงปลายทางอย่างรายการ TOUR Championship ที่จัดขึ้น ณ สนาม East Lake
ส่วนนี่ก็เป็นรายชื่อแบบคร่าวๆ ของผู้เล่น 30 อันดับแรกที่มีโอกาสสูงที่จะได้ร่วมลงแข่งทั้ง 3 รายการในโค้งสุดท้าย
1. Jon Rahm – หลังจบ FedExCup ด้วยอันดับ 2 ไปเมื่อปี 2021 ฤดูกาลนี้ก็สามารถกลับมาผงานด้วยการคว้าถึง 4 แชมป์ในปีนี้
2. Scottie Scheffler – เจ้าของมือวางอันดับ 1 ของโลกและแชมป์รายการ WM Phoenix Open กับ PLAYERS สามารถจบการแข่งด้วยการติดท็อป 12 ได้ถึง 18 รายการรวด
3. Rory McIlroy – แชมป์ FedExCup 3 สมัยคว้าแชมป์ Genesis Scottish Open ไปได้ในฤดูกาลนี้ และยังจบอันดับ 2 ได้จากรายการ U.S. Open
4. Max Homa – ป้องกันแชมป์รายการ Fortinet ได้สำเร็จ พร้อมกับจบการแข่งด้วยการติดท็อป 10 ไปถึง 9 รายการ และรั้งอันดับ 5 ร่วมใน FedExCup ปีที่แล้ว
5. Wyndham Clark – หลังทำผลงานได้ดีด้วยการเก็บไป 2 แชมป์ในฤดูกาลนี้ เขาก็หวังจะไปให้ถึงรายการ TOUR Championship ให้ได้เป็นครั้งแรก
6. Brian Harman – นอกจากชนะในรายการ Open Championship ได้แล้วเขายังจบอันดับ 2 ได้ถึง 3 รายการ
7. Viktor Hovland – แชมป์รายการ Winner of the Memorial Tournament presented by Workday ผ่านรอบตัดตัวได้ทุกรายการในฤดูกาลนี้และยังติดท็อป 20 ได้ทั้ง 4 รายการเมเจอร์
8. Keegan Bradley – แม้คว้าแชมป์ Travelers Championship มาได้แต่เขาก็ยังไปไม่ถึงรายการ TOUR Championship ได้เลยตั้งแต่ปี 2018
9. Rickie Fowler – กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในรอบกว่า 4 ปีกับรายการ Rocket Mortgage Classic
10. Tony Finau – คว้า 2 แชมป์ได้จากรายการ Texas Children’s Houston Open และ Mexico Open
11. Jason Day – คว้าแชมป์แรกได้รอบ 5 ปีได้จากรายการ AT&T Byron Nelson และยังจบการแข่งด้วยการติดท็อป 10 ไป 8 รายการ
12. Nick Taylor – กลายเป็นนักกอล์ฟชาวแคนาดาคนแรกที่คว้าแชมป์ RBC Canadian Open ได้นับตั้งแต่ 1954
13. Patrick Cantlay – แชมป์ FedExCup เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนยังไม่คว้าแชมป์ใดๆ เลยในฤดูกาลนี้ แต่ก็จบการแข่งด้วยการติดท็อป 10 ไปถึง 8 รายการ
14. Tom Kim – เก็บแชมป์ได้จากรายการ Shriners Children’s Open และจบที่อันดับ 6 ร่วมและ 2 ร่วมจาก 2 รายการหลังสุด แต่ก็มาบาดเจ็บข้อเท้าในรายการ Open Championship
15. Sepp Straka – คว้าแชมป์มาได้จากรายการ John Deere และจบอันดับ 2 ร่วมจากรายการ Open Championship
16. Xander Schauffele – ยังไม่คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ แต่จบการแข่งด้วยการติดท็อป 10 ไป 9 รายการ และผ่านรอบตัดตัวในทุกรายการที่ลงเล่น
17. Tyrrell Hatton – ผ่านรอบตัดตัวไปทั้งหมด 17 จาก 18 รายการที่ลงเล่นและติดท็อป 10 หลังแข่งจบไป 7 รายการ
18. Si Woo Kim – แชมป์รายการ Sony Open และจบอันดับ 2 ร่วมได้ในรายการ AT&T Byron Nelson
19. Sam Burns – คว้าแชมป์ WGC-Dell Technologies Match Play แต่ก็ดูเงียบไปหลังจากนั้น จนมาจบที่ 14 ร่วมในรายการ Wyndham
20. Russell Henley – ชนะได้ในรายการ World Wide Technology Championship และจบอันดับ 2 ร่วมในรายการ Wyndham
21. Emiliano Grillo – คว้าแชมป์ที่ 2 ใน PGA Tour ได้จากรายการ Charles Schwab Challenge
22. Collin Morikawa – จบที่ 2 ทั้งรายการ Sentry และ Rocket Mortgage จากทั้งหมด 5 ท็อป 10 ที่ทำไว้ แต่ยังไม่คว้าแชมป์ใดเลย
23. Kurt Kitayama – ชนะรายการ Arnold Palmer Invitational presented by Mastercard และจบที่ 4 ร่วมรายการ PGA Championship
24. Adam Schenk – จบที่ 2 รายการ Valspar Championship และ Charles Schwab Challenge และจบการแข่งด้วยท็อป 10 ไป 2 จาก 4 รายการหลังสุด
25. Taylor Moore – คว้าแชมป์ Valspar และทำสถิติด้วยการติดท็อป 25 ไป 11 ครั้ง
26. Tommy Fleetwood – ยังคงตามหาแชมป์แรกในทัวร์ หลังพ่ายในรอบเพลย์ออฟรายการ RBC Canadian Open
27. Denny McCarthy – แพ้ในรอบเพลย์ออฟอย่างน่าเสียดายจากรายการ Memorial แต่ก็จบการแข่งไปถึง 6 ท็อป 10 และผ่านรอบตัดตัวถึง 21 รายการ
28. Chris Kirk – คว้าชัยชนะได้จากรายการ Honda Classic แชมป์แรกในรอบเกือบ 8 ปี
29. Seamus Power – เก็บแต้ม FedExCup ได้เป็นกอบเป็นกำหลังคว้าแชมป์ได้ที่ Bermuda, จบที่ 3 ร่วมใน Mayakoba และ 5 ร่วมกับ The RSM Classic
30. Corey Conners – คว้าชัย Valero Texas Open, จบที่ 8 ร่วมใน Wells Fargo และที่ 9 ร่วมใน Travelers
