ย้อนกลับไปในเดือนเมษายนปี 2001 อาหารไทยเป็นข่าวใหญ่ในสื่อทุกประเภทของอเมริกาไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์รายวัน นิตยสาร และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อยู่นานหลายวันเมื่อได้รับเลือกให้เสิร์ฟแบบเซต เมนูในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่เรียก “แชมเปี้ยนส์ ดินเนอร์” ที่สนามออกัสต้า 2 วันก่อนการแข่งขันมาสเตอร์ส 2001
แชมเปี้ยนส์ ดินเนอร์ เป็นอาหารมื้อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกอล์ฟ เพราะผู้ที่จะได้รับเชิญจำกัดไว้เฉพาะผู้ที่เคยเป็นแชมป์กอล์ฟรายการ มาสเตอร์สซึ่งเป็นเมเจอร์แรกของทุกปีเท่านั้น ลูกเมียหรือคนอื่นไม่มีสิทธิ์เข้าไป ยกเว้นประธานสโมสรออกัสต้าและกรรมการอีกไม่กี่คน
โดยเจ้าภาพของงานเลี้ยงในปีนั้นคือ “วีเจย์ ซิงห์” และหน้าที่ของเจ้าภาพคือ เลือกอาหารสำหรับงานเลี้ยงรวมทั้งไวน์ เหล้า เบียร์ และที่สำคัญต้องเป็นผู้จ่ายเงินค่าอาหารทั้งหมด
วีเจย์ ซิงห์ นักกอล์ฟชาวฟิจิ ที่ชื่นชอบรับประทานอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจเพราะเขามีเชื้อสายอินเดีย มีภรรยาเป็นชาวมาเลย์ และมีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยที่ทำอาหารอร่อยมาก เลยได้เลือกอาหารไทยเป็นอาหารของแชมเปี้ยนดินเนอร์ปีนั้น เขามอบหมายให้ คุณนันทา และคุณสุพิชัย นิยมกูล เจ้าของร้านแนน (Nan : Thai fine dining) ร้านอาหารไทยระดับจับตลาดบนซึ่งอยู่ในที่แอตแลนต้าเป็นคนจัดทั้งหมด
ปีนั้น ไบรอน เนลสัน แชมป์มาสเตอร์ส วัย 93 ปี ซึ่งอายุมากที่สุดในบรรดาแชมป์ที่ยังมีชีวิตอยู่ทานเสร็จแล้วลุกขึ้นกล่าวต่อหน้าแชมป์ทุกคนว่า “ตั้งแต่ผมทานแชมเปี้ยน ดินเนอร์มา ปีนี้อร่อยที่สุดในชีวิต”
วันนั้นแชมป์มาสเตอร์สทั้ง 32 คนพร้อมใจกันมอบลายเซ็นบนเสื้อเชฟให้คุณแนนหรือนันทา ซึ่งเป็นแม่ครัวใหญ่
แจ็ก นิคลอส ตอนแรกจะสั่งอาหารอย่างอื่นของคลับเฮาส์เพราะไม่คุ้นกับอาหารไทย แต่ ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ บอกว่าขอให้ลองเถอะแล้วคุณจะติดใจ ปรากฏว่าคืนนั้นแจ็กซัดปลากะพงสามรสซะเต็มเหนี่ยวคนเดียวเล่น 2 จาน
โดยเมนูปลากะพงสามรสซึ่งที่ใช้ปลากะพงน้ำลึกจากชิลีมีมันเยอะทำให้เนื้อนุ่มเป็นอาหารยอดฮิตในคืนนั้น แชมป์หลายคนขอให้คุณนันทาทำใส่กล่องกลับไปฝากให้ภรรยาได้ชิม
ความดังของอาหารไทยในกอล์ฟมาสเตอร์สคราวนั้นทำให้คุณนันทาได้จัดแชมเปี้ยน ดินเนอร์ รายการพีจีเอ แชมเปี้ยนชิป ทั้งๆ ที่ทุกปีกอล์ฟรายการนี้ไม่เคยจัดแชมเปี้ยน ดินเนอร์ งานนี้มีความเป็นไทยมากกว่าที่ออกัสต้าเพราะมีรำอวยพรในงานเลี้ยงด้วย