“พราว” ชเนตตี วรรณแสน ไม่ต้องรอปาฏิหาริย์ เพราะเธอสร้างมันเอง

หากจะมีชื่อใดที่แฟนกอล์ฟทั่วโลกพูดถึงหลังจบ KPMG Women’s PGA Championship 2025 นอกจากแชมป์อย่าง Minjee Lee หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน โปรสาววัย 21 ปีจากเชียงใหม่ ผู้ระเบิดฟอร์มร้อนแรงในวันสุดท้าย ไล่หวด 4 อันเดอร์ 68 ขึ้นมาจบอันดับ 2 ร่วม คว้าซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในเมเจอร์ นับตั้งแต่เทิร์นโปรอย่างสง่างาม

หนึ่งในไฮไลต์ที่แฟนกอล์ฟทั่วโลกจะไม่ลืมคือ อีเกิ้ลที่หลุม 15 พาร์ 4 ที่ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน ไดรฟ์ขึ้นกรีนแล้วพัตต์ลงอย่างเฉียบคม จุดไฟลุ้นแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้าย และพาเธอพุ่งจากกลุ่มกลางตารางขึ้นสู่หัวตารางอย่างเหลือเชื่อ

และแม้หลายคนอาจเพิ่งรู้จักชื่อเธอจากเวทีระดับโลก แต่เส้นทางของ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน นั้นเต็มไปด้วยความพยายามในทุกรูปแบบของวงการกอล์ฟหญิง ทั้ง Thai LPGA, Epson Tour, LET Access Series, ไปจนถึงการต่อสู้อย่างดุเดือดเพื่อได้โอกาสแข่งในเวทีระดับ LPGA Tour

ในปี 2022 และ 2023 “พราว” ชเนตตี วรรณแสน กลายเป็นที่รู้จักในบ้านเกิดจากการ คว้าตั๋ว National Qualifiers เพื่อเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Honda LPGA Thailand  ที่จัดขึ้นในเมืองไทย การผ่านคัด 2 ปีติด ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และแสดงถึงความสามารถในการแข่งขันกับระดับโลก แม้ตอนนั้นเธอยังไม่เป็นสมาชิกถาวรของ LPGA Tour

จุดเปลี่ยนสำคัญของ “พราว” ชเนตตี วรรณแสน เกิดขึ้นในปี 2023 เมื่อเธอสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์ Portland Classic ด้วยวัยเพียง 19 ปี กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 5 ที่คว้าแชมป์ LPGA Tour ได้สำเร็จ และถือเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ของเธอในฐานะ “รุกกี้โนเนม” ที่ไต่ขึ้นมาจาก Epson Tour โดยไม่มีสิทธิ์เต็มฤดูกาล

ปีต่อมา เธอพิสูจน์ว่าไม่ได้ชนะเพราะฟลุก ด้วยการคว้าแชมป์ Dana Open 2024 ในสไตล์ที่นิ่งเกินวัย “พราว” ชเนตตี วรรณแสน กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตาที่สุดแห่งทศวรรษ และมีชื่ออยู่ในการแข่งขันแทบทุกรายการใหญ่

จากชัยชนะใน Thai LPGA และ LET Access สู่สังเวียนที่ใหญ่ที่สุดของโลก LPGA “พราว” ชเนตตี วรรณแสน คือนิยามใหม่ของ “นักกอล์ฟที่ไม่รอปาฏิหาริย์ แต่สร้างมันขึ้นมาเอง” และนี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางระดับโลกที่ทุกวงการกอล์ฟต้องจับตา