Race to Dubai 2025 ปิดฉากที่ดูไบกับบทสรุปฤดูกาล

ฤดูกาล DP World Tour 2025 เดินทางมาถึงจุดไคลแม็กซ์อย่างยิ่งใหญ่ในสัปดาห์นี้ กับทัวร์นาเมนต์สุดท้าย DP World Tour Championship 2025 ณ สนามกอล์ฟ Jumeirah ในดูไบ หลังตระเวนจัดการแข่งขันกว่า 27 ประเทศบน 5 ทวีป นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล โดยศึกสุดท้ายแห่งปีนี้ยังคงรักษาความเป็นอีเวนต์ระดับเรือธง Rolex Series โดยแข่งขัน 72 หลุมแบบไม่มีการตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากที่สุดในปฏิทิน 42 รายการของปี

การแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะตัดสินแชมป์สนามแล้ว ยังเป็นการลุ้นคว้า โทรฟี่ Harry Vardon Trophy สำหรับผู้เล่นอันดับหนึ่ง Race to Dubai อีกด้วย โดยมีสองแชมป์เมเจอร์อย่าง Rory Mcilroy เป็นตัวเต็งที่อยู่ในตำแหน่งกุมชะตาแชมป์ด้วยตัวเอง หลังคว้าแชมป์มาแล้วสองรายการในปีนี้ รวมถึงชัยชนะประวัติศาสตร์ที่ The Masters พร้อมจบอันดับท็อป 3 เมื่อสัปดาห์ก่อนที่อาบูดาบี ทำให้เขายังนำคู่แข่งสำคัญอย่าง Marco Penge ผู้ชนะ 3 รายการซีซั่นนี้ และ Tyrrell Hatton ที่ยังมีลุ้นแบบไม่ยอมแพ้ โดยผู้ชนะทัวร์นาเมนต์จะคว้าแต้มถึง 2,000 คะแนน ซึ่งอาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ

สนามไฟนอลปีนี้รวมยอดฝีมือ 50 อันดับแรกของ Race to Dubai Rankings พร้อมด้วยสองนักกอล์ฟทีม Ryder Cup ยุโรปที่ได้รับสิทธิ์พิเศษอย่าง Ludvig Aberg และ Shane Lowry รวมถึงอดีตแชมป์รายการนี้อย่าง Matt Fitzpatrick มาร่วมประชันฝีมือ

อีกความน่าสนใจโดยปีนี้มีนักกอล์ฟหน้าใหม่ถึง 17 คนลงสนามไฟนอลที่ดูไบ สะท้อนพลังรุ่นใหม่ในทัวร์ ขณะเดียวกันก็มีตัวเก๋ากลับมาทำผลงานโดดเด่น ที่สำคัญคือโอกาสของผู้เล่นท็อป 10 บนตาราง Race to Dubai ที่ยังไม่เคยได้รับการยกเว้น นั้นจะได้บัตรสมาชิก PGA TOUR 2026 อัตโนมัติ

ด้วยเดิมพันทั้งเกียรติประวัติ เงินรางวัล และทิศทางอนาคตอาชีพในปีหน้า ศึก DP World Tour Championship 2025 จึงเป็นมากกว่าทัวร์นาเมนต์ปิดฤดูกาล แต่มันคือเวทีพิสูจน์หัวใจนักสู้ และฉากสุดท้ายของเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่มต้นอีกครั้งที่ดูไบในปีหน้า

สมัครสมาชิก golf channel member เพื่อรับสิทธิพิเศษ ได้ที่นี่ line : https://lin.ee/Gmp8A3S

#GolfChannelTH #DPWorldTourChampionship
#Truevisions #AisPlay #3BBGIGATV