การแข่งขันที่จะเกิดขึ้นสัปดาห์นี้อย่างรายการ Portland Classic จะถือเป็นรายการรองสุดท้ายจากทั้งหมด 10 รายการรวดที่ครอบคลุมการแข่งขันไปถึง 6 ประเทศและอีก 2 รายการเมเจอร์ และแม้การเดินทางใกล้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่ความน่าตื่นเต้นก็ไม่ลดน้อยลงเลยเนื่องจากรายการนี้ก็นำทัพมาโดยโปรสาวมือ 1 ของโลกและเจ้าของ 2 แชมป์รายการเมเจอร์อย่าง Lilia Vu มาร่วมลงแข่ง
ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว
แม้จะต้องใช้เวลากว่า 8 ปีกับอีก 191 รายการที่ลงเล่นกว่าที่ Megan Khang จะคว้าแชมป์แรกใน LPGA Tour จากรายการ CPKC Women’s Open ให้กับตัวเองได้สำเร็จ แต่ชัยชนะครั้งนั้นมาเกิดขึ้นอย่างงดงามด้วยการเบียดเอาชนะอดีตมือ 1 ของโลกอย่าง Jin Young Ko ในหลุมแรกของการแข่งรอบเพลย์ออฟ และขึ้นเป็นนักกอล์ฟหญิงคนที่ 9 ที่ได้รับรางวัล Rolex First-Time Winner ประจำปี 2023
ซึ่งแม้ Khang จะเพิ่งคว้าแชมป์ได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เธอก็ไม่หยุดพักเพื่อเฉลิมฉลองและมุ่งหน้าเพื่อเตรียมลงแข่งอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้กับรายการ Portland Classic พร้อมกับความมั่นใจที่พกมาเต็มกระเป๋าหลังจากกลายเป็นอีกหนึ่งสมาชิกทีมสหรัฐฯ ที่จะเตรียมไปลุยศึก Solheim Cup ณ ประเทศสเปน อย่างไรก็ดี หลังจบการแข่งรายการนี้แล้วทางด้าน Khang จะมีเวลาพักเพียง 2 สัปดาห์ก่อนเตรียมตัวเดินทางไปสู้ศึกแห่งศํกดิ์ศรีที่แดนกระทิงดุ แต่สำหรับเธอที่เดินหน้าควานหาแชมป์มานานกว่า 8 ปี จะมีอะไรที่ดีไปกว่าการฉลองแชมป์แรกด้วยการได้ลงแข่งอย่างต่อเนื่องอีก
พร้อมปลดล็อกคว้าแชมป์
เมื่อพูดถึงรางวัล First-Time Winner ก็ต้องบอกว่ารายการ Portland Classic นั้นเป็นรายการที่มีนักกอล์ฟสาวมากมายที่มาปลดล็อกคว้าแชมป์แรกให้กับตัวเองได้ที่นี่ โดยนับตั้งแต่ปี 2012 นั้นมีนักกอล์ฟสาว 5 จาก 10 คนที่คว้าแชมป์แรกได้จากรายการนี้ รวมถึง Andrea Lee ที่จะเตรียมลงป้องกันแชมป์เช่นกัน แต่ดาวดังที่มาคว้าแชมป์แรกใน LPGA Tour ได้จากรายการนี้ก็คือ Brooke Henderson
โดยเจ้าตัวคว้าแชมป์นี้ได้ครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยที่ยังไมได้เป็นสมาชิกทัวร์ และป้องกันแชมป์ได้อีกครั้งเมื่อปี 2016 หลังจากนั้นเธอก็กวาดชัยชนะมาได้อีกถึง 11 แชมป์ รวมทั้ง 2 รายการเมเจอร์อย่าง KPMG Women’s PGA Championship ในปี 2016 และรายการ Amundi Evian Championship ปี 2022
แม้จะมีนักกอล์ฟสาวชั้นนำหลายคนที่จะร่วมลงแข่ง แต่คนนึงที่น่าจับตามองในครั้งนี้ก็คือ Xiyu Lin ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 13 ของโลก โดย Lin ถือเป็นนักกอล์ฟหญิงที่อันดับโลกสูงที่สุดที่ยังไม่เคยมีแชมป์ติดมือ ซึ่งปีที่แล้วเธอก็จบอันดับ 2 ไป 3 รายการ และแม้ปีนี้เธอจะจบอันดับ 2 ไปเพียงรายการเดียว แต่เธอก็จบการแข่งขันด้วยการติดท็อป 5 ไปถึง 3 รายการ และหากจะมีนักกอล์ฟหญิงคนไหนที่ปลดล็อกตัวเองคว้าแชมป์แรกได้ในรายการนี้ก็จะกลายเป็นคนที่ 10 ที่มีชื่อเป็น Rolex First-Time Winners ซึ่งสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้คือ 11 คนจากปี 2005 และปี 2022
ป้องกันแชมป์เป็นครั้งแรก
ในทุกๆ การคว้าแชมป์แรกย่อมต้องมีการป้องกันแชมป์เป็นครั้งแรก ซึ่งนี่ก็คือบททดสอบที่ Andrea Lee จะต้องเผชิญ โดยชัยชนะจากรายการนี้ของ Lee ถือว่าเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ โดยหลังจากที่ Lee ก้าวขึ้นมาเล่นใน LPGA Tour เมื่อปี 2021 เธอก็ประสบปัญหาอย่างหนักหน่วงด้วยการไม่ผ่านรอบตัดตัวไปถึง 10 จาก 13 รายการแรกที่ลงเล่น ส่งผลให้เธอต้องไปเล่นใน Epson Tour จากนั้นในช่วงต้นปี 2022 เธอก็คว้าแชมป์ได้จากรายการ Casino Del Sol Golf Classic แล้วก็เป็นรายการ Portland Classic เมื่อปีที่แล้วที่ถือว่าเป็นโอกาสให้เธอได้ลิ้มรสของการเป็นแชมป์ในระดับอาชีพได้อย่างเต็มภาคภูมิ แม้ในช่วง 14 รายการแรกที่เธอลงเล่นในฤดูกาลนี้จะผ่านรอบตัดตัวได้เพียง 7 รายการและไม่สามารถจบด้วยการติดท็อป 10 แต่ก็ดูเหมือนหลายๆ อย่างกำลังเป็นใจให้กับเธอก่อนที่จะกลับมาป้องกันแชมป์อีกครั้งในรายการนี้ โดย Lee ก็จบด้วยการติดท็อป 20 ไปได้ใน 3 รายการหลังสุด แถมยังจบด้วยอันดับ 9 ร่วมไปถึง 2 รายการซ้อนจาก FREED Group Women’s Scottish Open และรายการ AIG Women’s Open นอกจากนั้นเธอยังทำผลงานในรายการ CPKC Women’s Open ได้ดีพอที่จะผ่านการคัดเลือกได้ร่วมติดทีมไปลุยศึก Solheim Cup เป็นครั้งแรก
บรรดาแชมป์เก่าร่วมประชัน
แม้ Lee จะรู้วิธีเอาชนะในการลงแข่งที่สนามแห่งนี้และจะต้องลงแข่งเพื่อป้องกันแชมป์ แต่เธอก็ไม่ใช่นักกอล์ฟเพียงคนเดียวที่ทำได้ เพราะยังมีบรรดาแชมป์เก่าที่จะร่วมลงแข่งอีกถึง 5 คน ได้แก่ Henderson (2015, 2016), Stacy Lewis (2017), Marina Alex (2018), Hannah Green (2019) และ Georgia Hall (2020)
ซึ่งแชมป์ 2 สมัยอย่าง Henderson เองก็รู้วิธีใช้ข้อได้เปรียบของการเล่นที่สนามแห่งนี้อย่างดี และแม้เธอจะไม่ผ่านรอบตัดตัวถึง 2 รายการก่อนลงแข่งเพื่อป้องกันแชมป์ใน The Amundi Evian Championship แต่เธอก็ทำผลงานได้ดีก่อนที่จะไปจบอันดับ 2 ซึ่งพ่ายให้กับ Celine Boutier และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอก็จบด้วยอันดับ 13 ร่วมจากการลงแข่งในบ้านของตัวเองหลังจากไม่ผ่านรอบตัดตัวเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้า
ในส่วนของ Hall เองก็ถือว่ามองข้ามไม่ได้ หลังจากจบอันดับ 2 ได้ถึง 2 รายการติดจาก LPGA Drive On Championship at Superstition Mountain และรายการ DIO Implant LA Open แถมยังจบด้วยการติดท็อป 10 ไปอีก 3 รายการในปีนี้
ขณะที่ Green เองก็นับว่าเป็นม้ามืดที่ไม่อาจปรามาสหลังคว้าแชมป์ได้จากรายการ JM Eagle LA Championship presented by Plastpro และแน่นอนว่าเธอก็มาพร้อมกับความมั่นใจหลังเพิ่งจบไปด้วยอันดับ 4 ร่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากรายการ CPKC Women’s Open
ศึก Solheim Cup ที่กำลังรอคอย
หลังจบการแข่งขันรายการ Portland Classic ก็จะเหลืออีก 1 รายการอย่าง Kroger Queen City Championship presented by P&G ก่อนที่เหล่าผู้เล่นจะได้พักเบรกเพื่อเตรียมลงประชันศึกสำคัญแห่งปีอย่าง Solheim Cup ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศสเปน โดยหลังจบรายการ CPKC Women’s Open เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งทางฝั่งทีมยุโรปและทีมสหรัฐฯ ก็ได้เลือกตัวผู้เล่นครบแล้วทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทางแฟนๆ ก็ได้เห็นกันแล้วว่าฝั่งทีมยุโรปนั้นมีหน้าตาเป็นใครบ้าง นำโดยเจ้าของ 15 แชมป์ใน LPGA อย่าง Suzann Pettersen, Celine Boutier, Carlota Ciganda, Gemma Dryburgh, Linn Grant, Georgia Hall, Caroline Hedwall, Charley Hull, Leona Maguire, Anna Nordqvist, Emily Kristine Pedersen, Madelene Sagstrom และ Maja Stark.
ส่วนฝั่งทีมสหรัฐฯ ก็ได้เลือกทีมของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประกอบด้วย Allisen Corpuz, Ally Ewing, Danielle Kang, Megan Khang, Nelly Korda, Cheyenne Knight, Jennifer Kupcho, Andrea Lee, Lexi Thompson, Vu, Angel Yin และ Rose Zhang
ส่วนผู้เล่นที่จะลงแข่งในศึกนี้เป็นครั้งแรกของทั้ง 2 ทีมจะประกอบด้วย Corpuz, Dryburgh, Grant, Knight, Lee, Stark, Vu และ Zhang
