เรื่องหลักของการประกาศเมื่อวันพุธว่า PGA Tour ได้บรรลุข้อตกลงกับ Strategic Sports Group เพื่อเป็นผู้ลงทุนรายย่อยใน PGA Tour Enterprises ไม่เพียงเป็นการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ที่กลุ่มหุ้นเอกชนที่นำโดย Fenway Sports วางแผนไว้ แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะไม่ได้เปิดประตูรับการลงทุนเพิ่มเติมจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดิอาระเบียอีกต่อไป
โปรแกรมหุ้นทุนของผู้เล่นจะทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงทรัพย์สินมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ โดยให้ทุนเริ่มต้น 900 ล้านดอลลาร์แก่สมาชิก Tour มากกว่า 200 ราย แต่วิธีการแบ่งหุ้นทุนเหล่านั้นออกไปนั้นเป็นคำถามที่ใหญ่ที่สุดจากผู้เล่นหลังการประกาศ และในขณะที่กระบวนการกำกับดูแลจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการแก้ปัญหา ผู้อำนวยการผู้เล่นคนหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายได้เสนอภาพรวมว่าระบบจะทำงานอย่างไร
ผู้อำนวยการผู้เล่นที่ขอไม่เปิดเผยตัวตนเพราะเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าว อธิบายว่า SSG ลงทุนครั้งแรก 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเติบโตเป็น 3 พันล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 750 ล้านดอลลาร์จะถูกจัดสรรให้เป็นหุ้นของผู้เล่น โดยสัดส่วนการได้นั้นขึ้นอยู่กับระบบคะแนนที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่ Tour ใช้สำหรับโปรแกรมการเกษียณอายุ
ผู้เล่นจะได้รับคะแนนสำหรับชัยชนะใน Tour ผ่านควอลิฟายไปเล่นใน Tour Championship และผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันอื่นๆ ในช่วงเวลา 5 ปี โดยส่วนแบ่งส่วนใหญ่ของหุ้นนั้นจะไปสู่ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 36 แต้ม
ส่วนผู้เล่น 72 คนถัดไปในรายชื่อนี้จะได้รับส่วนแบ่งหุ้นลดลง และแผนดังกล่าวยังรวมถึงผู้เล่น “ดั้งเดิม” เช่น Tiger Woods และ Jack Nicklaus เช่นเดียวกับผู้เล่นที่กำลังมาแรง อย่าง Nick Dunlap ซึ่งเทิร์นโปรเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากชนะรายการ The American Express ในฐานะอะเมเจอร์
อย่างไรก็ตาม การปันหุ้นทุนให้กับผู้เล่น PGA Tour นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและรวมถึงว่า แผนนี้นั้นจะครอบคลุมถึงผู้เล่น LIV Golf หรือไม่ ซึ่ง Monahan เองได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า กำลังหารือกันอย่างเข้มงวด กับทาง PIF ที่เป็นเจ้าของ LIV Golf
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.nbcsports.com/golf/news/players-have-equity-in-the-pga-tour-but-what-does-that-mean