หลังจากที่ Lucas Glover ในวัย 43 ปีคว้าแชมป์จากรายการ Wyndham Championship และ FedEx St. Jude Championship ไปได้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงส่งผลให้ตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของเขาบนเส้นทางการเป็นนักกอล์ฟ เพราะหากย้อนไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน เขายังรั้งอันดับ 167 บนตารางคะแนน FedExCup และรั้งที่ 166 ของโลก แต่หลังจากจบการแข่งด้วยการติดท็อป 10 ไป5 รายการซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ไปอีก 2 รายการ เขาจึงกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 4 บนตารางคะแนน FedExCup และรั้งที่ 30 ของโลก
“ผมว่ามันก็คงเป็นเพราะความดื้อรั้นในทางที่ถูกต้องและการไม่ยอมแพ้ของตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็แค่เป็นเรื่องราวของการพลิกกับมายืนได้อีกครั้งด้วยการใช้ความมุ่งมั่นและพยายามทำตามเป้าหมายของตัวเอง” Glover กล่าว
หากย้อนไปราว 1 เดือนที่แล้วและมีคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงการแข่งขัน FedExCup Playoffs หลายคนคงจะเอ่ยถึงชื่อของ Jon Rahm, Scottie Scheffler หรือ Rory McIlroy ซึ่ง Glover เองก็คงเข้าใจ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เป็นที่เตะตาและมีท่วงท่าที่เหมือนเดิมมาตลอด ซึ่งก็ไม่ต่างจากนักกอล์ฟทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้น Glover เองก็ได้มีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง
เริ่มจากกูรูด้านการพัตต์อย่าง Brad Faxon ที่ออกมาบอกว่าเขาได้เปลี่ยนไปจับพัตเตอร์คล้ายกับการจับไม้กวาดและฝึกด้วยตัวเองจากการดูวิดีโอของ Adam Scott และ Scott McCarron ผ่าน Youtube จนมาถึงการได้ร่วมงานกับ Jason Kuhn อดีตนาวิกโยธินหน่วยซีลที่เข้ามาช่วยเปลี่ยนความคิดในการเล่น ซึ่งผลลัพธ์ก็คือเขาขยับขึ้นมาอยู่ที่ 12 ในด้าน Strokes Gained: Putting หลังคว้าแชมป์รายการ FedEx St. Jude Championship
“Kuhn เปลี่ยนความคิดของผมจากการที่หายใจลึกๆ และใจเย็นๆ ค่อยๆ เล่นของผมไปเลย เขาสอนให้ผมกล้าที่จะเล่นมากขึ้น ซึ่งมันก็ได้ผลดีมาก และถ้าพูดตรงๆ มันก็เป็นเหมือนเวทมนต์ที่เข้ามาช่วยผมได้แทบทุกสัปดาห์ เพราะมันทำให้ผมกล้าเล่นมากขึ้น แทนที่จะรู้สึกกลัวที่จะเล่น”
และแม้ Glover จะพลาดรอบตัดตัวในรายการ 3M Open เมื่อเดือนที่แล้ว มันก็ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เขาได้ ถึงขนาดที่ Matt Wallace เพื่อร่วมก๊วนของเขาที่เคยเห็นช่วงที่ Glover ย่ำแย่ที่สุดก็ยังเอ่ยปากว่า Glover ดูเปลี่ยนไป ซึ่งหลังจบรายการนั้นเขาก็คว้าแชมป์มาได้ถึง 2 รายการซ้อน
“ผมเองก็ไม่คิดว่าจะคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการซ้อน ผมไม่ได้คิดว่าจะคว้าแชมป์ในช่วงการแข่งขัน FedEx หรือเปล่า แต่ก็ไม่คิดว่าจะคว้าแชมป์ได้อีก ผมพูดมาตลอดว่าถ้าผมถึงจุดนั้นแล้วก็คงถึงจุดสูงสุดของผมแล้ว แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่าถ้าตัวเองทำแบบนี้ได้ผมก็คงไปถึงจุดที่ผมตั้งเป้าไว้ได้เหมือนกัน” Glover กล่าว